ใกล้แล้วกับเทศกาลคริสมาสต์ ชวนทำ คุกกี้ กดแบบง่าย ๆ แต่งหน้าด้วยรอยัลไอซิ่งน่ารัก ๆ ในธีมคริสมาสต์ ไว้แจกเพื่อน ๆ แบบเก๋ ๆ ฝึกเก่ง ๆ เปิดรับออเดอร์ได้เลย
คุกกี้ รอยัลไอซิ่ง ธีมคริสมาสต์
ส่วนผสม
เนยเค็มอุณหภูมิห้อง 175 กรัม
น้ำตาล 50 กรัม
ไข่ไก่อุณหภูมิห้อง1 ฟอง
แป้งเค้ก 250 กรัม
ผงฟู1/4 ช้อนชา
กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
รอยัลไอซิ่ง
น้ำตาลไอซิ่ง 150-160 กรัม
ไข่ขาว 1 ฟอง
สีผสมอาหาร
ขั้นตอนการทำ
เริ่มค่ะ ใส่เนยลงชามผสม ใช้เป็นเนยนิ่มอุณหภูมิห้อง แป้งสาลี ไอซิ่ง และผงฟู ผสมให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ
ตามด้วยไข่ไก่ และกลิ่นวนิลา คนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ขั้นตอนนี้แอดใช้เป็นพายยางนะคะ อันนี้แล้วแต่ถนัดค่ะ
จากนั้น ห่อด้วยฟิล์มถนอมอาหาร แล้วนำเข้าตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง
เอาแป้งคุกกี้ออกจากตู้เย็นมาคลึงให้แบน ความหนาตามต้องการ แล้วใช้พิมพ์กด ตามชอบได้เลยค่ะ
วางเนื้อคุกกี้ของเราบนกระดาษรองอบให้เรียบร้อย นำเข้าเตาอบทีอุณหภูมิ 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 12 – 15 นาที
มาทำรอยัลไอซิ่ง สำหรับแต่งหน้คุกกี้น่ารักๆ กันค่ะ เพียงแค่ นำไข่ขาวผสมกับไอซิ่ง คนผสมให้เข้ากันดี ความข้นหนืด ดูตามที่เราต้องการได้เลย แล้วผสมสีตามชอบ
นอกจากเราจะแต่งด้วยรอยัลไอซิ่งแล้ว เราเพิ่มความน่ารักด้วยน้ำตาลตกแต่งอีกสักหน่อย so cute มากๆ
Tip
ถ้าตักตัวคุกกี้ไม่ขึ้น เพราะนิ่ม ให้แช่เย็นสักครู่ แล้วค่อยตักใหม่จะง่ายขึ้นค่ะ
คุกกี้คือ … ??
ขนมอบ ชิ้นเล็ก ๆ มีรูปร่างแบน ทำมาจากแป้งสาลี เดิมทีคุกกี้ทำโดยการแบ่งแป้งขนมเค้กที่ผสมแล้วออกมาส่วนหนึ่ง แบ่งออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำเข้าเตาอบ เพื่อทดสอบอุณหภูมิที่จะใช้อบขนมเค้ก
คำว่า “คุกกี้” (cookie) ใช้กันใน สหรัฐอเมริกา และ แคนาดา ในขณะที่ในสหราชอาณาจักร จะเรียกขนมแบบเดียวกันนี้ว่า “บิสกิต” (biscuit)
ประวัติความเป็นมาของคุกกี้
มีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 7 มาจากแถบเปอร์เซีย ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศอิหร่าน เป็นขนมที่ถูกคิดค้นขึ้นหลังจากที่ผู้คนเริ่มหันมาบริโภคน้ำตาล และเผยแพร่สู่ทวีปยุโรปหลังจากช่วงที่ประเทศสเปนเริ่มรุกรานมุสลิม
ผ่านไปถึงศตวรรษที่ 14 คุกกี้ก็เริ่มเป็นที่นิยมของผู้คนทุกชนชั้นในทวีปยุโรป มีวางจำหน่ายในร้านอาหารหรูหราไปจนถึงร้านข้างทาง ข้อดีของขนมชนิดนี้คือ เป็นของกินที่มีเก็บไว้ได้ค่อนข้างนาน นักเดินทางจึงนิยมพกพาติดตัวในการเดินทางระยะไกล
คุกกี้ประเภทแรก ที่เป็นที่นิยมและแพร่หลายไปทั่วทุกทวีป คือ “Jumble cookies” ซึ่งมีส่วนผสมเป็นถั่วจำนวนมาก ต่อมาในช่วงปี ค.ศ.1620 พวกชาวดัตช์ ก็เอาคุ้กกี้เข้าสู่ทวีปอเมริกา โดยจะเรียกขนมชนิดนี้ว่า “koekje” ซึ่งแปลได้ว่า “เค้กชิ้นเล็ก” ถัดมาในศตวรรษที่ 19 คนอังกฤษ ก็เริ่มมีความผูกพันกับขนมอบกรอบชนิดนี้ และต้องมีติดบ้านไว้เป็นของทานเล่นระหว่างที่กำลังดื่มชา
ประเภทของคุกกี้ มีดังนี้
- คุกกี้หยอด ตัวเนื้อคุกกี้ จะมีลักษณะเหลวพอที่จะใช้ช้อนตัก หยอด เป็นรูปร่างต่าง ๆ หรือใส่กรวยที่มีหัวบีบ ตกแต่งหน้าด้วยเชอรี่หรือลูกเกด เช่น คุกกี้นมสด คุกกี้เนย คุกกี้กุ้งแห้ง คุกกี้เม็ดมะม่วง
- คุกกี้ม้วน ตัวเนื้อคุกกี้ สามารถนำมารีดเป็นแผ่นวางลวดลายต่าง ๆ หรือม้วนเป็นวงกลม คุกกี้ชนิดนี้ ต้องนำเข้าแช่ในตู้เย็นจนแข็ง จึงนำออกมาตัดเป็นแว่น ๆ แล้วนำเข้าอบ เช่น คุกกี้แฟนซี คุกกี้ผลไม้ ฯลฯ
- คุกกี้กด ลักษณะของเนื้อคุกกี้ค่อนข้างอยู่ตัว นำมารีดเป็นแผ่น กดด้วยพิมพ์เป็นลายต่าง ๆเพื่อได้รูปทรงตามที่เราต้องกาี
- คุกกี้ปั้น (Moulded Cookies) ส่วนผสมค่อนข้างแห้งและมีประมาณไขมันสูง เหมาะสำหรับปั้นเป็นรูปร่างต่าง ๆ ได้
- คุกกี้แท่งหรือคุกกี้บาร์ (Bar Cookies) คุกกี้ชนิดนี้เนื้อสัมผัสจะนุ่มคล้ายเนื้อเค้ก มักอบในพิมพ์ แล้วตัตเป็นชิ้น
- คุกกี้แช่เย็น (Refrigerated Cookies) ส่วนใหญ่ม้วนเป็นแท่ง และแช่เย็นให้อยู่ตัว เวลาจะใช้จึงตัดเป็นชิ้นบางๆ แล้วอบ การแช่เย็นเพื่อให้หลังตัดเป็นชิ้นแล้วยังคงรูปร่างเดิม
ที่มา – wordpress.com
Story : เนื้อทอง ทรงสละบุญ
Photo : วาระ สุทธิวรรณ
Style : แชร์ สวนผัก
ดูเมนูอาหารอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ติดตามกินดีอยู่ดีที่ https://www.facebook.com/KindeeyuudeeTH
