ขนมจีบต้ม

เมื่ออยากกิน ขนมจีบต้ม แบบไส้ตู้ม ๆ ฟีลแก้มตุ่ย เต็มปากเต็มคำ แล้วสุกจริง ไม่หลอกดาว ก็ต้องทำเองค่ะ อร่อยจริงจัง แบบแย่งกันกิน หมดในพริบตา

ขนมจีบต้ม

ส่วนผสม
แผ่นเกี๊ยว 1 แพ็ค
หมูบดละเอียด 500 กรัม
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสเห็ดหอม 2 ช้อนโต๊ะ
สามเกลอ (รากผักชี กระเทียม พริกไทย โขลกละเอียด) 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมซอย ตามชอบ
กระเทียมเจียว สำหรับโรยหน้า

ขั้นตอนการทำ

เตรียมชามผสม ใส่หมูบดลงไป ตามด้วยเครื่องปรุงรส น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส ซอสเห็ดหอม สามเกลอ น้ำมันงา ต้นหอมซอยลงไปสักหน่อย อันนี้ตามชอบนะคะ

เติมแป้งข้าวโพดลงไปสักนิด คลุกเคล้าให้เข้ากันดี เพิ่มการเกาะตัวของหมูบดค่ะ

เริ่มประกอบร่างกันค่ะ โดยการกำมือแบบหลวมๆ ให้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ชนกัน วางแผ่นเกี๊ยวให้อยู่ตรงกลางของวงนิ้วเรา แล้วตักส่วนผสมหมูของเราลงไปแบบตู้ม ๆ

พอใจก็แตะน้ำรอบ ๆ แผ่นเกี๊ยวเลยค่ะ ค่อยๆ ขยับ ห่อๆ คลึงๆ จนได้รูป ปิดให้มิดแบบไม่ให้หมูทะลักออกมา ทำจนเนื้อหมูหมด ระหว่างที่เราปั้น ก็ต้มน้ำรอไว้ได้เลยนะคะ จะได้ไม่เสียเวลา ถ้าจะทานนเลย

ต้มน้ำรอให้เดือด จึงใส่ตัวขนมจีบของเราลงไปต้มได้เลยค่ะ สุกแล้ว น้องก็จะทำตัวลอย ๆ เหมือนโดนชม…หยอกกกก 😜

ตักขึ้นมาใส่ชามคลุกน้ำมันกระเทียมเจียวเพิ่มความหอมยิ่งขึ้น และทำให้ขนมจีบของเราไม่ติดกันค่ะ

โรยกระเทียมเจียวสักหน่อย แถ่….แด…. พร้อมทานแล้วค่ะ

Tips

  • สามารถเพิ่มเติม หรือเปลี่ยนเนื้อสัตว์ ได้ตามชอบ
  • หัดทำช่วงแรก ๆ แนะนำใส่ไส้ไม่ต้องตู้มมาก เดี๋ยวปิดไม่มิด แล้วเอาไปต้มเดี๋ยวไส้จะแตก ไว้อันหลัง ๆ เนอะ เพราะเริ่มเซียนแล้ว

ขนมจีบ

ประวัติความเป็นมา

ขนมจีบ เป็นอาหารว่างประเภทคาว แบบแห้ง ของประเทศจีน โดยการปรุงจะใช้แป้งเป็นแผ่นห่อไส้ โดยห่อเป็นทรงกระบอก ลักษณะคล้ายกับผลทับทิม หรือคล้ายกับดอกไม้บาน หลังจากนั้นจึงนำไปนึ่งจนสุก ในภาษาจีนกลางเรียกว่า “ซาวม่าย”  (烧麦:shao mai) ซึ่งในแต่ละท้องที่จะมีการเรียกที่แตกต่างกันไปบ้าง แต่จะต่างที่เพียงเสียง หรือการใช้อักษรแทนเสียงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

“ขนมจีบ” เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน หรือราว ๆ 700 กว่าปีก่อน โดยขนมจีบนั้นเดิมทีเป็นวัฒนธรรมของเมืองฮูฮอต มองโกเลียใน จากการนำมาขายในร้านน้ำชาบนเส้นทางสายไหม จนได้ชื่อว่า “ซาวม่าย”(捎卖)ที่แปลว่า สินค้าที่ขายเป็นงานอดิเรกเครื่องเคียง หรือ อาหารเรียกน้ำย่อยคู่กับชา

เป็นที่นิยมสำหรับชาวเมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง  (广东省) ซึ่งต่อมาได้แพร่หลายทั่วโลกตามลำดับ ในสมัยก่อนขนมจีบมักนิยมรับประทานคู่กับน้ำชา และถือเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของอาหารติ่มซำ ( 點心:dim sum ; ภาษาจีนกลาง อ่านว่า เตี่ยนซิน ; ภาษากวางตุ้ง อ่านว่า ติ่มซำ) เช่นเดียวกับซาลาเปา

ซึ่งเรียกง่าย ๆ ก็คือ ติ่มซำ คือ อาหารว่างที่นิยมรับประทานกับน้ำชาของชาวจีนกวางตุ้ง และขนมจีบก็เป็นหนึ่งในจำพวกแผ่นแป้งห่อ (餃, 餃子) ของเมนูติ่มซำ ที่รับมาจากวัฒนธรรมฮูฮฮอตของชาวมองโกลนั่นเอง

ติ่มซำ เป็นอาหารว่าง ที่โดยปกติแล้วมักจะทานตอนสาย ๆ ก่อนเที่ยง แต่ปัจจุบันก็สามารถหารับประทานได้ตลอดเวลา แม้กระทั่งตอนดึก ซึ่งจะพบเห็นได้ที่ฮ่องกง 

ติ่มซำ เกิดขึ้นที่เมืองกวางตุ้ง มีตำนานเล่ากันว่าสมัยก่อนนั้นมีนักเดินทางตามเส้นทางสายไหม มักจะหาสถานที่เพื่อแวะพักผ่อนระหว่างการเดินทาง ดังนั้นบนเส้นทางสายไหมจึงเต็มไปด้วย ” ร้านน้ำชา”หรือ “Yum Cha” เพื่อต้อนรับอาคันตุกะนักเดินทางแปลกหน้าเป็นประจำ

ขณะเดียวกันชาวนาตามชนบท เมื่อทำงานเหนื่อยล้าก็จะแวะพักผ่อนและดื่มน้ำชายามบ่ายตามร้านน้ำชาเหล่านี้   ขณะที่ดื่มน้ำชาก็จะต้องมีอาหารกินเล่นเพื่อกินคู่กับน้ำชา บรรดาเจ้าของร้านจึงเริ่มคิดหาอาหารกินเล่นต่าง ๆ ขึ้นมา จึงเป็นที่มาของติ่มซำในเวลาต่อมา ด้วยความที่เป็นอาหารกินง่ายและรสชาติแปลกใหม่ ติ่มซำจึงกลายเป็นอาหารที่นิยมไปทั่วโลก

ขอขอบคุณข้อมูลจาก:http://lub-jib-kanomjeeb.blogspot.com/2015/01/blog-post.html


Story : เนื้อทอง ทรงสละบุญ
Photo : วาระ สุทธิวรรณ

ช่องทางการติดตามกินดีอยู่ดี
Facebook https://www.facebook.com/KindeeyuudeeTH
Instagram @kindeeyuudeeth
Tiktok @kindeeyuudeeth
ติดตามสูตรอาหารเพิ่มเติมได้ที่นี่