น้ำพริกปลากระอ๋อง ชื่อน้ำพริกสุดเก๋นี้ ได้มาจากวัตถุดิบติดบ้าน นั่นก็คือ ปลากระป๋อง ที่เอามาเป็นส่วนหนึ่งของ น้ำพริกอ่อง ทางภาคเหนือของบ้านเราเป็นการผสมผสานจากการทำน้ำพริกอ่อง ที่ใส่ปลากระป๋องนั่นเองค่ะ
น้ำพริกปลากระอ๋อง
Spicy northern thai sardine and tomato
ส่วนผสม
ปลากระป๋อง
มะเขือเทศ
น้ำมันสำหรับผัด เล็กน้อย
หอมแดง
กระเทียม
พริกชี้ฟ้าแห้ง (แช่น้ำ)
กะปิ
เกลือ
น้ำตาลปี๊บ
ขั้นตอนการทำ
เริ่มจากโคลกพริกแกง ส่วนผสมมี หอมแดง กระเทียม พริกชี้ฟ้าแห้ง เกลือ และกะปิ โขลกให้เข้ากัน
เนื้อพริกแกงเรา จะได้ประมาณนี้ค่ะ
หั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นเล็กๆ เตรียมผัด มะเขือเทศ สามารถเลือกใช้มะเขือเทศแบบใดก็ได้ตามชอบนะคะ
มาเริ่มผัดกันเลยค่ะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ผัดกับเครื่องแกงพอหอม ใส่มะเขือเทศลงไปผัดได้เลยค่ะ
ใส่ไอเทมเด็ด ปลากระป๋อง ลงได้เลยค่ะ
ยีๆ ให้เนื้อปลาแตก แล้วปรุงรสด้วยเกลือ กับน้ำตาลมะพร้าว ได้เลย
พร้อมเสิร์ฟแล้วค่ะ
“มะเขือเทศคือผลไม้”
ซึ่งเป็นไปตามคำนิยามของหลักทางพฤกษศาสตร์ เพราะผลไม้ คือ ส่วนของรังไข่ที่เจริญเติบโตเต็มที่ของพืชดอก ส่วนผัก คือ พืชที่กินได้ของพืชล้มลุก ไม่ว่าจะเป็นราก ใบ ก้าน หัว หน่อ ดอก ซึ่งโดยปกติแล้วคนส่วนมากมักเข้าใจผิดว่ามะเขือเทศคือผัก เพราะนำไปใช้ประกอบอาหารกันเป็นส่วนใหญ่ และมักคิดว่าผลไม้คือสิ่งที่ให้ความหวานนั่นเอง โดยมะเขือเทศที่นิยมรับประทานมากคือ มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศราชินี
สารอาหารในมะเขือเทศ
ไม่เพียงแต่รสชาติเปรี้ยวอมหวาน แต่ยังให้พลังงานและแร่ธาตุอีกมากมาย “มะเขือเทศ” ผลไม้สุดอัศจรรย์ที่ให้ไลโคปีน (Lycopene) ถึง 2,573 ไมโครกรัม ต่อมะเขือเทศสีแดงสด ปริมาณ 100 กรัม แต่นอกจากนั้นแล้ว ประโยชน์ของมะเขือเทศ ยังมีอีกมากมาย
ไลโคปีนในมะเขือเทศ
ไลโคปีน (Lycopene) เป็นสารที่สำคัญที่สามารถพบได้ในมะเขือเทศ จัดเป็นสารประกอบในกลุ่มแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่ง ใน 600 ชนิด สามารถพบไลโคปีนได้ในมะเขือเทศ แตงโม เกรพฟรุตสีชมพู และมะละกอ เป็นต้น สามารถพบไลโคปีน (Lycopene) ในปริมาณตั้งแต่ 0.9 – 9.30 กรัม ใน 100 กรัม ของมะเขือเทศสด ไลโคปีน (Lycopene) ช่วยลดความเสี่ยงจากมะเร็งที่อวัยวะต่าง ๆ ชัดเจนที่สุดคือมะเร็งต่อมลูกหมาก รองลงมาคือมะเร็งปอด เป็นต้น จึงนับว่าเป็นสารอาหารที่ค่อนข้างมีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง
มะเขือเทศที่ผ่านความร้อน จะทำให้การยึดจับของไลโคปีน กับเนื้อเยื่อของมะเขือเทศอ่อนตัวลง ทำให้ร่างกายนำไลโคปีนไปใช้ได้ดีกว่าการรับประทานสด เพราะมะเขือเทศที่ผ่านความร้อนแล้วจะเปลี่ยนรูปแบบไลโคปีนแบบ“ออลทรานส์”(all-trans-isomers)เป็นชนิด “ซิส”(cis -isomers) ซึ่งเป็นชนิดที่ละลายเข้าสู่ร่างกายได้ดีกว่า
วิตามินซี ในมะเขือเทศ
นอกจากรสเปรี้ยวอมหวานที่ทำให้รู้สึกสดชื่นแล้ว มะเขือเทศยังให้วิตามินซีสูงมาก ๆ ซึ่งวิตามินซีนั้น จัดว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญในร่างกาย มีประโยชน์มากมาย อย่างเช่น ช่วยเสริมภูมิต้านทาน และซ่อมแซมเนื้อในร่างกาย ช่วยชะลอวัย และลดริ้วรอยแห่งวัย เป็นต้น
โพแทสเซียม ในมะเขือเทศ
น้ำมะเขือเทศหนึ่งแก้วนั้น ให้โพแทสเซียม (Potassium) สูงมาก ๆ มีการวิจัยและเก็บข้อมูลจากมะเขือเทศหนึ่งผลปริมาณ 100 กรัม ว่า ให้ธาตุโพแทสเซียม (Potassium) ถึง 237 มิลลิกรัม เลยทีเดียว
สรรพคุณ และประโยชน์ของมะเขือเทศ
มะเขือเทศ จะช่วยในเรื่องการลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดโรค เช่น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงจากเส้นเลือดตีบ ลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งลำไส้ มะเร็งรังไข่ รวมไปถึงมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการรักษาสุขภาพเหงือกและฟัน อย่างโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน ป้องกันอัลไซเมอร์ (โรคสมองเสื่อม) และช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดทางด้านผิวพรรณ มะเขือเทศช่วยบำรุงให้ผิวพรรณนุ่มชุ่มชื่น ไม่แห้งกร้านทำให้ผิวเต่งตึงสดใส ลดการเกิดสิว ทั้งยังช่วยลดและชะลอริ้วแห่งวัยอีกด้วย
ข้อมูล – ชีวจิต
Story : เนื้อทอง ทรงสละบุญ
Photo : วาระ สุทธิวรรณ