“เห็ด” กินดี มีประโยชน์ กินดีอยู่ดี พาทำ แกงเห็ด รสแซ่บ สูตรนีี้ใช้เห็ด 3 อย่าง แล้วใส่ผักอื่น ๆ ตามชอบ ใส่น้ำย่านาง และปลาร้านัว ๆ จะบอกว่าซดเพลินเลยค่ะ
แกงเห็ด
ส่วนผสม
- เห็ดนางรม/เห็ดฟาง/เห็ดหูหนู
- บวบงู
- ฟักทอง
- ชะอม
- ใบแมงลัก
- กระเทียม
- หอมแดง
- ตะไคร้
- พริกกะเหรี่ยง
- น้ำย่านาง
- น้ำปลา
- น้ำปลาร้า
ขั้นตอนการทำ
เริ่มจากหั่นผักทุกอย่างเตรียมไว้
โขลกเครื่องแกง – มีหอมแดง กระเทียม พริกกะเหรี่ยง โขลกแค่หยาบ ๆ
ตั้งหม้อใส่น้ำย่านาง ตามด้วยเครื่องแกงที่โขลก
ตามด้วยตะไคร้ พอเริ่มส่งกลิ่นหอม ๆ ใส่ผักที่สุกยาก หรือช้า ลงก่อน คือ ฟักทอง บวบงู เห็ดต่าง ๆ และชะอม
ปรุงรสด้วย น้ำปลา และน้ำปลาร้า
ชิมรสตามชอบ เมื่อถูกใจแล้ว ใส่ใบแมงลักลงไป เป็นอันเสร็จ
พร้อมเสิร์ฟ แล้วค่ะ คู่กับ ข้าวสวยร้อน ๆ
“เห็ด” คุณค่าอาหารจากยุคดึกดำบรรพ์
ในบรรดาอาหารทั้งหมด “เห็ด” มีความแปลกแยกแตกต่าง เพราะในชีววิทยาแล้ว เห็ด ไม่ได้เป็นทั้งพืชหรือสัตว์ แต่ในทางอาหารได้รับการจัดอยู่ในกลุ่มของพืชผัก เห็ดจึงเป็นเมนูหลักเมนูหนึ่งที่ชาวมังสวิรัติโปรดปรานและเป็นที่ชื่นชอบสำหรับผู้รักสุขภาพ รวมทั้งคนรักอาหารรสชาติอร่อยก็จะไม่พลาดเมนูจากเห็ดโดยเด็ดขาด
หลายคนรู้กันดีว่าเห็ด เป็นอะไรที่ตอบโจทย์อาหารสุขภาพอย่างมาก เนื่องจากเห็ดมีคุณค่าอาหารสูง แต่กลับมีไขมัน แคลอรี น้ำตาล และเกลือน้อย นับเป็นอาหารเพื่อสุขภาพโดยแท้ ในเว็บไซต์ของ Medical News Today กล่าวว่า การกินเห็ดเพิ่มมากขึ้นจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และความอ้วน คนรักสวยรักงามก็น่าจะเทคะแนนให้เห็ดไปเต็มๆ เพราะยังมีข้อดีอีก 2 ประการ คือ ช่วยดูแลผิวพรรณและเส้นผมได้อีกด้วย
เห็ดไม่ใช่แค่ดอกเห็ด
คงจะพอทราบกันว่า เห็ดไม่ใช่ทั้งพืชและสัตว์ แต่จัดเป็นราชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นราวิวัฒนาการสูง ดอกเห็ดที่เราเห็นเติบโตมาจากใต้ดินหรือบนตอไม้ผุๆ นั้น ลึกลงไปข้งล่างคือเส้นใยเล็กๆ แตกแขนงออกเป็นเครือข่ายจำนวนมากกินบริเวณกว้างขวาง อาจกล่าวได้ว่าภายใต้ผืนดินที่พบเห็ดขึ้นอยู่นั้นคืออาณาจักรของเห็ดรา บริเวณไหนอุดมสมบูรณ์เหมาะกับการเจริญเติบโตก็จะมีดอกเห็ดผุดขึ้นมา
เห็ดไม่สามารถสร้างอาหารเองได้เนื่องจากไม่มีคลอโรฟิลล์ อาหารของเห็ดมาจากการย่อยสลายอินทรียวัตถุ เห็ดส่วนใหญ่แพร่พันธุ์ด้วยวิธีการสร้างสปอร์ขนาดจิ๋วจำนวนมากมายมหาศาลเก็บไว้ในร่มของดอกเห็ด พอโตได้ที่ดอกเห็ดบาน สปอร์เห็ดก็จะฟุ้งกระจายไปในอากาศ หากไปตกอยู่ในบริเวณสภาพแวดล้อมเหมาะสมก็จะงอกเป็นเส้นใยแตกแขนงก่อน แล้วจึงค่อยโตเป็นดอกเห็ดต่อไป เส้นใยของเห็ดอาจมีอายุสั้นแค่เพียงไม่กี่เดือน แต่ถ้าหากได้อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์แล้วละก็ อาจมีอายุยืนยาวถึงหลายร้อยปีเลยทีเดียว นับเป็นเรื่องน่าทึ่งของเห็ดทีเดียว
เห็ด 10 ชนิด เพื่อสุขภาพ
1.เห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือมีเนื้อสีแดงแข็งเงาวาวเหมือนทาแล็กเกอร์ไม่นุ่มกรุบเหมือนเห็ดทั่วไปที่เรากิน จัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ได้รับการยกย่องว่าเป็นเห็ดแห่งจิตวิญญาณ ที่ญี่ปุ่นเรียกเห็ดหลินจือว่า เห็ดหมื่นปี เพระกินแล้วฉลาดและอายุยืน เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั่วโลก มีคุณสมบัติเด่นหลายประการ ตั้งแต่ต่อต้านการเกิดเนื้องอกและมะเร็ง มีการใช้เห็ดหลินจือบำบัดรักษามะเร็งร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน นอกจากนี้ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ เสริมทัพระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ดูแลระบบประสาท ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ดูแลระบบไหลเวียนของโลหิต กระเพาะอาหารและลำไส้ รักษาภูมิแพ้ หอบหืด ล้างพิษ ช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศและมีบุตรยาก เป็นต้น
อย่างไรก็ตามบางคนเมื่อใช้เห็ดหลินจืออาจเกิดอาการแพ้ได้ เช่น ระบายท้อง ปากแห้ง ท้องอืด หรือผื่นคัน ฯลฯ ที่ต้องคอยสังเกตกันสักนิด
2.เห็ดหอม
เห็ดหอมหรือเห็ดชิตาเกะ จัดเป็นอาหารเลอค่าและยังเป็นยาอายุวัฒนะ นั่นเพราะมีคุณสมบัติเด่นในการต้านมะเร็ง ต้านเชื้อโรคอย่างไวรัส บรรเทาอาการหวัด ช่วยกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงกำลัง ก้านของเห็ดหอมอุดมไปด้วยเบต้ากลูแคนจึงช่วยลดไขมันในเลือดอันเป็นสาเหตุของโรคอันตรายอย่างหลอดเลือดแข็งอุดตัน โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจขาดเลือด เห็ดหอมยังอุดมไปด้วยวิตามินดี ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน
แต่ก็ต้องระวังสักนิด หากกินเป็นอาหารเสริมหรือยา โดยเฉพาะคนที่มีโรคประจำตัวควรศึกษาเรื่องอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้นหรือปรึกษาคุณหมอก่อน ส่วนเห็ดหอมแห้งถ้าตากในแสงแดดจะมีวิตามินดีมากกว่าตากในที่ร่ม แต่ก็มีข้อควรระวัง ถ้าไม่มั่นใจในแหล่งที่ซื้อมาทำอาหารควรเลี่ยงน้ำแช่เห็ดหอมแห้ง เพราะอาจมีสารคาร์บอนไดซัลไฟด์ที่ใช้ซุปเห็ดหอมแห้งป้องกันแมลง สังเกตว่าเก็บได้นานเกินไปและไม่มีแมลงมารบกวนเลยก็ควรเลี่ยง และซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้
3.เห็ดไมตาเกะ
เป็นเห็ดหายากชนิดหนึ่ง ชาวญี่ปุ่นใช้ทำยาสมุนไพรมาเป็นเวลาร่วม 1,000 ปี อุดมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนต์ ป้องกันหลอดเลือดแข็งและตีบตัน ลดระดับความดันโลหิต ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง ช่วยชะลอวัย มีสารเบต้ากลูแคน ช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลออดเลือดสมอง ช่วยชะลอวัย มีสารเบต้ากลูแคน ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ต่อต้านเชื้อโรครวมทั้งเชื้อไวรัส และยังคอยทำลายเซลล์ผิดปกติอย่างช่นเซลล์เนื้องอกและเซลล์มะเร็ง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ยับยั้งการดูดซึมกลูโคส ป้องกันและบำบัดรักษาเบาหวาน นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและช่วยควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วนได้อีกด้วย
4.เห็ดทรัฟเฟิล
เห็ดทรัฟเฟิลมักเกิดอยู่ใต้ดินรอบๆ ต้นโอ๊ก มีทั้งสีดำและสีขาว สีขาวหายาก ราคาแพงกว่า ทรัฟเฟิลเป็นเห็ดที่แพงที่สุดในโลก ที่แพงเพราะอยู่ใต้ดิน กลิ่นหอมหวนอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั่นเอง ทำให้ทุกคนติดอกติดใจ เห็ดทรัฟเฟิลทำหน้าที่เป็นเครื่องปรุง แค่ฝานบางๆ โรยลงบนอาหารก็ทำให้จานนั้นมีความพิเศษขึ้นมาทันทีทันใด เห็ดทรัฟเฟิลมีประโยชน์ต่อสุขภาพเนื่องจากอุดมไปด้วยสารแอนติออกซิแดนต์ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านเชื้อโรค ลดการอักเสบ ชะลอวัย ดูแลตับและดวงตา รวมทั้งช่วยกำจัดเซลล์มะเร็ง
5.เห็ดหูหนู
เห็ดูหนูหรือเห็ดหูหนูดำเป็นเห็ดหาง่าย ราคาไม่แพง แต่อย่าได้ประมาทเห็ดหน้าตาพื้นๆ เชียว เพราะเห็ดหูหนูมีคาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร และธาตุเหล็กสูง มีวิตามินบี2 ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เห็ดหูหนูยังมีสารอะดีโนซีนซึ่งมีคุณสมบัติในการต้นการเกาะตัวของเกร็ดเลือด ป้องกันเลือดข้นหนืดอุดตันภายในหลอดเลือด ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเม็ดเลือดขาว สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย บำรุงกำลัง บรรเทาอาการไอ ลดปัญหาท้องผูก ประจำเดือนมามากและตกขาว ช่วยดูแลอวัยวะภายในต่างๆ ทั้งปอด ตับ ไต กระเพาะอาหาร และลำไส้
6.เห็ดฟาง
เห็ดฟางเป็นเห็ดอีกชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าเกินหน้าตาบ้านๆ ของมัน ทั้งยังหาซื้อง่าย แต่ก็ช้ำง่าย ต้องรีบปรุงภายในวันเดียว เห็ดฟางมีวิตามินบีและวิตามินซี ช่วยดูแลดวงตา ป้องกันหวัด ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ช่วยลดไขมันในเลือด ป้องกันโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจ มีเส้นใยสูง ช่วยเรื่องการขับถ่ายและควบคุมน้ำหนักตัว ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย ยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็ง ลดอาการติดเชื้อในร่างกาย ช่วยให้แผลหายเร็ว ช่วยลดอาการช้ำบวมในร่างกาย ช่วยการทำงานของตับ ลดผื่นหรืออาการคันตามร่างกาย
7.เห็ดแชมปิญอง
เห็ดแชมปิญองหรือเห็ดกระดุม สีขาวอวบกลมน่ากินได้รับความนิยมในครัวฝรั่งมาโดยตลอด นอกจากรสชาติอร่อยแล้ว ยังมีเส้นใยสูงดีต่อระบบขับถ่าย อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ มีสารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยดูแลซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันในเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนดี ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และยังช่วยต้านโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มีงานวิจัยหนึ่งระบุว่าการกินเห็ดแชมปิญองวันละครึ่งถ้วยสามารถหยุดยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งเต้านมได้ ผู้หญิงทั่วไปกินวันละไม่ถึงครึ่งถ้วยก็ช่วยลดโอกาสเกิดมะเร็งเต้านมได้
8.เห็ดโคน
เห็ดโคนหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเห็ดปลวก เพราะเห็ดชนิดนี้ชอบขึ้นอยู่ตามจอมปลวก ด้วยรสชาติอร่อยพิเศษเหนือเห็ดอื่นหลายชนิด จึงเป็นที่นิยมมาก แค่เห็ดโคนต้มน้ำปลาก็เป็นเมนูขึ้นชื่อเป็นที่รู้จักกันทั่วไปแล้ว เห็ดโคนมีราคาแพง กิโลกรัมละหลายร้อยบาท เพราะปลูกไม่สำเร็จ ต้องหาจากในป่าตอนฤดูฝนรอขึ้นเองตามธรรมชาติ ระยะหลังมานี้เกษตรกรเริ่มมีการเพาะเห็ดโคนสำเร็จ แต่ราคาเห็ดโคนก็ยังคงสูงอยู่
เห็ดโคนมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้าน ทั้งช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงกำลัง รักษาโรคบิด ยังยั้งเชื้อไทฟอยด์ ลดอาการคลื่นไส้อาเจียน นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการไอและละลายเสมหะ
9.เห็ดนางรม
เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดนางฟ้าภูฎาน เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดเออรินจิ(เห็ดนางรมหลววง) ล้วนเป็นเห็ดรสชาติอร่อยในตระกูลเห็ดนางรม เห็ดเป๋าฮื้อเป็นเห็ดชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากเนื่องจากรสสัมผัสแน่นเหนียวหนึบคล้ายเนื้อสัตว์ เห็ดนางรมมีวิตามินบี 1 บี 2 สูง อุดมไปด้วยกรดโฟลิก เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ เห็ดนางรมเป็นโปรตีนคุณภาพดีเนื่องจากมีไขมันต่ำเหมาะกับการลดน้ำหนัก นอกจากนี้ยังดีต่อสุขภาพหลายด้าน ป้องกันโรคโลหิตจาง เหน็บชา ทั้งยังช่วยเรื่องการไหลเวียนของโลหิต
ลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูงกินแล้วไม่อ้วนจึงเหมาะกับคนที่ต้อองการลดน้ำหนัก ลดอาการปวดเมื่อยตามตัว สารแอนติออกซิแดนต์ในเห็ดนางรมช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระและเชื้อโรคต่างๆ รวมทั้งหวัด และยังช่วยต่อต้านการอักเสบภายในร่างกาย
10.เห็ดเผาะ
เห็ดเผาะหรือเห็ดถอบเป็นเห็ดพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา ความอร่อยของเห็ดเผาะอยู่ตรงเปลือกกรอบๆ กัดแล้วดังเป๊าะจึงค่อยเจอกับเนื้อนุ่มที่อยู่ภายใน เห็ดเผาะหายากสักนิด เพราะออกเฉพาะช่วงหน้าฝน ในตลาดทั่วไปมีวางขายไม่มากนัก หน้าตาของเห็ดเผาะเมื่อเดินในตลาดดูไม่สะดุดตาและไม่น่าเชื่อว่าจะอร่อยเด็ด ด้วยรูปร่างหน้าตากลมๆ เล็กๆ สีคล้ำดูมอมแมมเพราะคลุกดินอยู่ หากซื้อมาทำอาหารต้องล้างดินออกให้หมดก่อนนำไปปรุง
เห็ดเผาะมีสารอาหารหลายชนิดรวมทั้งแร่ธาตุอย่างแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ไนอะซีน และวิตามินซี มีประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็ง บำรุงร่างกาย ช่วยลดอาการอักเสบช้ำบวม ลดไข้ ช่วยให้ความเย็นในร่างกาย แก้ร้อนใน แพทย์แผนจีนใช้ในการห้ามเลือดและสมานแผล มีข้อแนะนำเล็กน้อยในการกินเห็ดเผาะคือ ควรเลือกเห็ดเผาะสีไม่เข้มดำมากนักเพราะจะแก่ เห็ดเผาะที่แก่จะมีเปลือกเหนียวไม่ควรกิน อาจทำให้ไม่ย่อย เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้
ที่มา – ชีวจิต
Story : เนื้อทอง ทรงสละบุญ
Photo : วาระ สุทธิวรรณ
ช่องทางการติดตามกินดีอยู่ดี
Facebook https://www.facebook.com/KindeeyuudeeTH
Instagram @kindeeyuudeeth
Tiktok @kindeeyuudeeth
ติดตามสูตรอาหารเพิ่มเติมได้ที่นี่